ใจ ของมนุษย์นั้นไซร้ ยากแท้หยั่งถึงจริงๆจ้ะ ประเภทหาแฟนเองไม่ได้จึงคิดแย่งแฟนเพื่อนซะงั้นก็มี ทำหยั่งกะว่าตัวเองสิ้นไร้ไม้ตอกหาแฟนเองไม่ได้งั้นแหละ เออ แต่พูดก็พูด บางคนหาแฟนเองไม่ได้น่ะมีจริงๆซะด้วยนะ จึงหาทางลัดเล่นไปก้อร่อก้อติกฉกแฟนของชาวบ้านชาวช่อง หรือดีไม่ดีก็ของเพื่อนนั่นแหละมาเป็นของตัวซะเลย แต่โห คนที่กล้าแย่งแฟนเพื่อนช่างหน้าด้านจริงๆนะฮ้า ถึงได้ทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงได้ทุกอย่าง แม้จะต้องเสียเพื่อนไปก็ยอม...มีด้วยแฮะ
ซึ่ง หากคุณเป็นคนนึงที่กำลังถูกเพื่อนแย่งแฟน หรือเคยผ่านประสบการณ์ในลักษณะนี้มาแล้ว พอได้ยินเรื่องนี้คงเซ็ง เพราะคิดไม่ถึงว่าจู่ๆเพื่อนกันจะมาทำลายกันเองเนี่ยนะ...โอ้ย รับไม่ได้สิจ๊ะ เป็นเพื่อนกันอยู่ดีๆ กลับต้องมาแตกคอกันไปคนละทิศเพราะเพื่อนมาแย่งหวานใจของคุณไปเนี่ยนะ คุณย่อมเสียความรู้สึกกับเพื่อนคนนี้ชนิดสุดลิ่มทิ่มประตูไปเลย
จึงเหลือปริศนาว่า แล้วคุณจะยอมให้เพื่อนแย่งแฟนไปไหมล่ะ? แต่คำถามนี้ให้ตอบเองเออ เองคงไม่สะดวก เพราะหากเพื่อนของคุณเข้าตำรา “เพื่อนเลือดเย็นหักเหลี่ยมโหด” และ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เพื่อนปรารถนาละก็ เห็นทีคนหน้าหนาและยังมียางอายบวกสมบัติผู้ดีอย่างเราๆ คงสู้รบ ตบมือกับแรงริษยาของเพื่อนจอมปลอมคนนี้ไม่ไหวแฮะ
แต่ อย่าห่วงไปท่าน ถ้าแฟนของคุณไม่เล่นด้วย เดี๋ยวเพื่อนปลอมๆก็หน้าแหกหกคะเมนไปเองแหละ...แต่เอ๊ะ หรือว่า แฟนของคุณก็ดี๊ด๊าไปเกาะแกะกะเพื่อนตัวดีด้วยนะ? ถ้าใช่ละก็ อย่าลืมเฉ่งปี๋เค้าก่อนโบกมืออำลากันด้วยล่ะ หน็อยแน่ะ ดันส่อสันดานเจ้าชู้ นิยมมี หลายกิ๊กออกมาแล้วไหมล่ะ งั้นเอางี้ คุยถึง การรับมือถ้าเผอิญคุณถูกแย่งแฟน ขึ้นมาละกัน
เริ่มด้วย 1. อย่าเพิ่งสติแตก ขอให้ขวัญเอ๋ย ขวัญมา และตั้งสติ ก่อน สตาร์ต...เอ้ย ตั้งสติยอมรับความจริงให้ได้ซะก่อน รู้นะ พออ่านถึงตรงนี้คุณคงคิดแหงว่าพูดน่ะง่าย แต่ให้ทำใจน่ะยากเอาการทีเดียว เพราะถ้าทำใจได้ง่ายๆแสดงว่าคุณอยากทิ้งไอ้แฟนคนนี้อยู่แล้วดิ่
แต่ ถ้าไม่กะจะทิ้งแฟนโดยโละให้เพื่อนไปซะ ก็ภาวนาอย่าให้คุณย้ำคิดย้ำทำถึงเรื่องที่ถูกเพื่อนแย่งแฟนจนอกกลัดหนอง บ่อยๆละกัน เพราะทำไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมาได้ร้อก ทางที่ดีหยุดความรู้สึกช้ำเลือดช้ำหนองซะเถอะ ในเมื่อเพื่อนทรยศไม่รักเราจริงแล้วก็ตัดเค้าทิ้งไปจากใจซะ แถมไม่ควรเรียกกันว่าเพื่อนต่อไปแล้วด้วยซ้ำ เอ้า ต่อให้เพื่อนเคยดีกับเราแค่ไหน แต่ถ้าเล่นกันแรงขนาดนี้ก็อย่าไปคบให้เสียท่า, เสียหน้าและเสียรู้อีกเลย ไอ้เพื่อนคนนี้น่าจะขอบคุณคุณด้วยซ้ำที่ไม่มาเล่น สงครามประสาทแบบซาดิสต์ๆกะมันด้วยน่ะ
2. หากคุณยังตัดใจจากแฟนที่ไปตกหลุมสวาทเพื่อนไม่ได้ ก็ขอให้คิดถึงความเฮงซวยของเค้าไปพลางๆ แล้วเชื่อว่าคุณจะไม่อยากถอยหลังลงคลองไปคบกับเค้าอีกไงล่ะ
เชื่อ ดิ่ ข้อเสียของเค้าย่อมมีเป็นกะตั้กแหงๆ อย่างตอนคบกัน เวลาไปเที่ยวด้วยกันที่ไหนเค้าก็มักคะยั้น?คะยอให้คุณควักกระเป๋าหารค่าใช้ จ่ายด้วยกันทุกที แถมบางครั้งคุณต้องจ่ายเงินเลี้ยงข้าวเค้าด้วยซ้ำ แล้วงี้ยังไปอาลัยอาวรณ์เค้าทำมั้ย อีกอย่าง เค้ายังเป็นคนขี้โม้, หัวเถิก, หยาบคาย แถมไม่มีเงินแต่ กระแดะติดหรูใช้ของแบรนด์เนมอ๊ะป่าว หนำซ้ำเมื่อคุณพยายามพูดถึงแผนในอนาคตร่วมกัน เค้าก็ไม่ สนเอาด้วยซ้ำ ดูเป็นคนหลักลอยมากกว่าจะเป็นคนที่มั่นคงทางใจนะ แค่เนียะ เค้าก็ไม่ควรค่าแก่การยึดเป็นที่พึ่งและเป็นแฟนแล้วล่ะ
3. อย่าลงโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองเด็ดขาด ถึงแม้จะใช่ก็เหอะ
ใน เมื่อเรื่องเลยเถิดมาถึงป่านนี้แล้ว จึงไม่ควรโทษตัวเองว่ามีส่วนผิดในเหตุไม่คาดฝันนี้ด้วย โถ แค่นี้คุณก็แทบเอาตัวไม่รอดแล้ว ยังจะพิรี้พิไรโทษตัวเองอีกเรอะว่า “ชั้นผิดเองๆ” เพราะดันไปแนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกัน...เออ! นั่นน่ะก็ผิดแหละ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเรื่องจะลงเอยแบบนี้ ฮึ่ม
4. คิดซะว่า รับรองไอ้คู่นี้อยู่กันไม่ยืดหรอก
ถ้า คนนึงโคตรเจ้าชู้แถมมักมาก ส่วนอีกคนก็ชอบหว่านเสน่ห์และโชว์หวิวไปทั่ว แล้วจะไปกันได้ไง อย่างมากคบกันได้ไม่เกิน 3 เดือน 6 เดือน แหงๆ เพราะประวัติของแต่ละคนก็แซบซ่าบ้ารักประเดี๋ยวประด๋าวด้วยกันทั้งคู่นี่ หว่า เชื่อดิ่ คนหัวเราะเยาะทีหลังย่อมดังกว่าเป็นไหนๆ 555 ไว้หัวเราะให้สะใจเลยนะตัว แม้ตอนแรกเราอาจร้องไห้ตาบวมก็เหอะ
5. อุทิศส่วนกุศลและอโหสิให้คู่นั้นเค้าไปซะ
แม้ จะโกรธและช้ำใจจากการกระทำของพวกเค้ามากแค่ไหน แต่ความที่คุณเป็นคนมีสปิริตที่ดี มีน้ำใจเป็นนักกีฬา และไม่เคียดแค้นใครพร่ำเพรื่อ เพราะแค้นใจไปอาจทำให้คุณประสาทเสียซะเองก็ได้ ดังนั้น จงอโหสิให้คู่กรรมคู่นี้ไปเถอะ เพราะคุณเป็นคนดีก็เงียะ แต่ที่จริงน่ะไม่อยากให้ไอ้คู่นี้ตาม มาหลอกหลอนเราอีกต่างหากล่ะ...อุ๊บส์!
และถ้าอีกหน่อยเกิดมีแฟนใหม่ คุณควรลองใจเค้าซะแล้วล่ะว่าจะรักคุณจริงรึเปล่า เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยไง ส่วนการลองใจก็ทำงี้สิ...
*วัดว่าเค้าเป็นคนซื่อไหม? เช่น มักโทร. มารายงานตัวกับคุณจนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วใช่เปล่า?
*เค้าไม่เที่ยวไปเกี้ยวพาราสีใคร เพราะไม่ชอบเที่ยวกลางค่ำกลางคืน จริงอ่ะ?
*แม้คุณเริ่มมีรอยเท้าสัตว์ปีก (ตีนกา) ขึ้นก็เถอะ แต่เค้าไม่ใส่ใจเลยสักติ๊ด อย่างมากก็พูดหยอกล้อเล่นๆ ใช่มะ? ถ้าเค้าสอบผ่าน ก็แสดงว่า เค้าคือตัวจริงที่สวรรค์ส่งมาให้คุณน่ะสิ
จึงเหลือปริศนาว่า แล้วคุณจะยอมให้เพื่อนแย่งแฟนไปไหมล่ะ? แต่คำถามนี้ให้ตอบเองเออ เองคงไม่สะดวก เพราะหากเพื่อนของคุณเข้าตำรา “เพื่อนเลือดเย็นหักเหลี่ยมโหด” และ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เพื่อนปรารถนาละก็ เห็นทีคนหน้าหนาและยังมียางอายบวกสมบัติผู้ดีอย่างเราๆ คงสู้รบ ตบมือกับแรงริษยาของเพื่อนจอมปลอมคนนี้ไม่ไหวแฮะ
แต่ อย่าห่วงไปท่าน ถ้าแฟนของคุณไม่เล่นด้วย เดี๋ยวเพื่อนปลอมๆก็หน้าแหกหกคะเมนไปเองแหละ...แต่เอ๊ะ หรือว่า แฟนของคุณก็ดี๊ด๊าไปเกาะแกะกะเพื่อนตัวดีด้วยนะ? ถ้าใช่ละก็ อย่าลืมเฉ่งปี๋เค้าก่อนโบกมืออำลากันด้วยล่ะ หน็อยแน่ะ ดันส่อสันดานเจ้าชู้ นิยมมี หลายกิ๊กออกมาแล้วไหมล่ะ งั้นเอางี้ คุยถึง การรับมือถ้าเผอิญคุณถูกแย่งแฟน ขึ้นมาละกัน
เริ่มด้วย 1. อย่าเพิ่งสติแตก ขอให้ขวัญเอ๋ย ขวัญมา และตั้งสติ ก่อน สตาร์ต...เอ้ย ตั้งสติยอมรับความจริงให้ได้ซะก่อน รู้นะ พออ่านถึงตรงนี้คุณคงคิดแหงว่าพูดน่ะง่าย แต่ให้ทำใจน่ะยากเอาการทีเดียว เพราะถ้าทำใจได้ง่ายๆแสดงว่าคุณอยากทิ้งไอ้แฟนคนนี้อยู่แล้วดิ่
แต่ ถ้าไม่กะจะทิ้งแฟนโดยโละให้เพื่อนไปซะ ก็ภาวนาอย่าให้คุณย้ำคิดย้ำทำถึงเรื่องที่ถูกเพื่อนแย่งแฟนจนอกกลัดหนอง บ่อยๆละกัน เพราะทำไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมาได้ร้อก ทางที่ดีหยุดความรู้สึกช้ำเลือดช้ำหนองซะเถอะ ในเมื่อเพื่อนทรยศไม่รักเราจริงแล้วก็ตัดเค้าทิ้งไปจากใจซะ แถมไม่ควรเรียกกันว่าเพื่อนต่อไปแล้วด้วยซ้ำ เอ้า ต่อให้เพื่อนเคยดีกับเราแค่ไหน แต่ถ้าเล่นกันแรงขนาดนี้ก็อย่าไปคบให้เสียท่า, เสียหน้าและเสียรู้อีกเลย ไอ้เพื่อนคนนี้น่าจะขอบคุณคุณด้วยซ้ำที่ไม่มาเล่น สงครามประสาทแบบซาดิสต์ๆกะมันด้วยน่ะ
2. หากคุณยังตัดใจจากแฟนที่ไปตกหลุมสวาทเพื่อนไม่ได้ ก็ขอให้คิดถึงความเฮงซวยของเค้าไปพลางๆ แล้วเชื่อว่าคุณจะไม่อยากถอยหลังลงคลองไปคบกับเค้าอีกไงล่ะ
เชื่อ ดิ่ ข้อเสียของเค้าย่อมมีเป็นกะตั้กแหงๆ อย่างตอนคบกัน เวลาไปเที่ยวด้วยกันที่ไหนเค้าก็มักคะยั้น?คะยอให้คุณควักกระเป๋าหารค่าใช้ จ่ายด้วยกันทุกที แถมบางครั้งคุณต้องจ่ายเงินเลี้ยงข้าวเค้าด้วยซ้ำ แล้วงี้ยังไปอาลัยอาวรณ์เค้าทำมั้ย อีกอย่าง เค้ายังเป็นคนขี้โม้, หัวเถิก, หยาบคาย แถมไม่มีเงินแต่ กระแดะติดหรูใช้ของแบรนด์เนมอ๊ะป่าว หนำซ้ำเมื่อคุณพยายามพูดถึงแผนในอนาคตร่วมกัน เค้าก็ไม่ สนเอาด้วยซ้ำ ดูเป็นคนหลักลอยมากกว่าจะเป็นคนที่มั่นคงทางใจนะ แค่เนียะ เค้าก็ไม่ควรค่าแก่การยึดเป็นที่พึ่งและเป็นแฟนแล้วล่ะ
3. อย่าลงโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองเด็ดขาด ถึงแม้จะใช่ก็เหอะ
ใน เมื่อเรื่องเลยเถิดมาถึงป่านนี้แล้ว จึงไม่ควรโทษตัวเองว่ามีส่วนผิดในเหตุไม่คาดฝันนี้ด้วย โถ แค่นี้คุณก็แทบเอาตัวไม่รอดแล้ว ยังจะพิรี้พิไรโทษตัวเองอีกเรอะว่า “ชั้นผิดเองๆ” เพราะดันไปแนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกัน...เออ! นั่นน่ะก็ผิดแหละ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเรื่องจะลงเอยแบบนี้ ฮึ่ม
4. คิดซะว่า รับรองไอ้คู่นี้อยู่กันไม่ยืดหรอก
ถ้า คนนึงโคตรเจ้าชู้แถมมักมาก ส่วนอีกคนก็ชอบหว่านเสน่ห์และโชว์หวิวไปทั่ว แล้วจะไปกันได้ไง อย่างมากคบกันได้ไม่เกิน 3 เดือน 6 เดือน แหงๆ เพราะประวัติของแต่ละคนก็แซบซ่าบ้ารักประเดี๋ยวประด๋าวด้วยกันทั้งคู่นี่ หว่า เชื่อดิ่ คนหัวเราะเยาะทีหลังย่อมดังกว่าเป็นไหนๆ 555 ไว้หัวเราะให้สะใจเลยนะตัว แม้ตอนแรกเราอาจร้องไห้ตาบวมก็เหอะ
5. อุทิศส่วนกุศลและอโหสิให้คู่นั้นเค้าไปซะ
แม้ จะโกรธและช้ำใจจากการกระทำของพวกเค้ามากแค่ไหน แต่ความที่คุณเป็นคนมีสปิริตที่ดี มีน้ำใจเป็นนักกีฬา และไม่เคียดแค้นใครพร่ำเพรื่อ เพราะแค้นใจไปอาจทำให้คุณประสาทเสียซะเองก็ได้ ดังนั้น จงอโหสิให้คู่กรรมคู่นี้ไปเถอะ เพราะคุณเป็นคนดีก็เงียะ แต่ที่จริงน่ะไม่อยากให้ไอ้คู่นี้ตาม มาหลอกหลอนเราอีกต่างหากล่ะ...อุ๊บส์!
และถ้าอีกหน่อยเกิดมีแฟนใหม่ คุณควรลองใจเค้าซะแล้วล่ะว่าจะรักคุณจริงรึเปล่า เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยไง ส่วนการลองใจก็ทำงี้สิ...
*วัดว่าเค้าเป็นคนซื่อไหม? เช่น มักโทร. มารายงานตัวกับคุณจนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วใช่เปล่า?
*เค้าไม่เที่ยวไปเกี้ยวพาราสีใคร เพราะไม่ชอบเที่ยวกลางค่ำกลางคืน จริงอ่ะ?
*แม้คุณเริ่มมีรอยเท้าสัตว์ปีก (ตีนกา) ขึ้นก็เถอะ แต่เค้าไม่ใส่ใจเลยสักติ๊ด อย่างมากก็พูดหยอกล้อเล่นๆ ใช่มะ? ถ้าเค้าสอบผ่าน ก็แสดงว่า เค้าคือตัวจริงที่สวรรค์ส่งมาให้คุณน่ะสิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น