คำราชาศัพท์
ความหมาย
คำราชาศัพท์ตามรูปศัพท์ หมายถึง ถ้อยคำที่ใช้กับพระมหากษัตริย์ ในปัจจุบัน คำราชาศัพท์หมายถึง ถ้อยคำสุภาพ ไพเราะที่ใช้ให้เหมาะกับฐานะของบุคคลในสภาพสังคมไทย ได้แก่ พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ พระภิกษุ ขุนนางข้าราชการ และสุภาพชน
ที่มาของคำราชาศัพท์
๑.รับมาจากภาษาอื่น
ภาษาเขมร เช่น เสวย เขนย เสด็จ โปรด ฯลฯ
ภาษาบาลี สันสกฤต เช่นเนตร หัตถ์ โอรส อาพาธ ฯลฯ
๒.การสร้างคำขึ้นใหม่ โดยการประสมคำ เช่น ตั้งเครื่อง ลูกหลวง
ซับพระพักตร์ ฯลฯ
วิธีใช้ราชาศัพท์ที่ควรสังเกต
๑.การใช้ “ทรง” มีหลัก ๓ ประการ
๑.๑นำหน้าคำกริยาสามัญทำให้เป็นกริยาราชาศัพท์ เช่น
ทรงเจิม ทรงออกกำลังกาย ทรงใช้ ทรงวิ่ง เป็นต้น
๑.๒นำหน้าคำนามสามัญบางคำทำให้เป็นกริยาราชาศัพท์ได้ เช่น
ทรงดนตรี ทรงช้าง ทรงเครื่อง ทรงรถ เป็นต้น
๑.๓นำหน้าคำนามราชาศัพท์ทำให้เป็นกริยาราชาศัพท์ได้ เช่น
ทรงพระอักษร ทรงพระดำเนิน ทรงพระราชนิพนธ์ ทรงพระราชดำริ เป็นต้น
คำกริยาที่เป็นคำราชาศัพท์อยู่แล้วไม่ใช้ “ทรง” นำหน้า เช่น เสด็จ เสวย โปรด เป็นต้น
๒.การใช้คำ “พระบรม” “พระราช” “พระ”
๒.๑ คำ “พระบรม”ใช้เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น พระบรมราชานุเคราะห์ พระปรมาภิไธย พระบรมราโชวาท ฯลฯ
๒.๒ “พระราช” ใช้นำหน้าคำนาม แสดงว่าคำนามนั้นเป็นของพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชินี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เช่นพระราชานุญาต พระราชวโรกาส พระราชประวัติ ฯลฯ
๒.๓ คำ “พระ” ใช้นำหน้าคำนามที่เป็นอวัยวะ ของใช้ เช่น
พระนลาฏ พระชานุ พระขนง ฯลฯ
๓.การใช้คำราชาศัพท์ให้ถูกต้องตามสำนวนไทย ไม่นิยมเลียนแบบสำนวนต่างประเทศ ได้แก่
๓.๑ถ้ามาต้อนรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องใช้ว่า ประชาชนมาเฝ้า ฯ รับเสด็จ คำว่า”เฝ้าฯรับเสด็จ” ย่อมาจาก”เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ”ไม่ใช้คำว่า”ถวายการต้อนรับ”
๓.๒คำว่า”คนไทยมีความจงรักภักดี” หรือ”แสดงความจงรักภักดี” ใช้ได้ แต่ไม่ควรใช่คำว่า “ถวายความจงรักภักดี”
๔.การใช้ คำราชาศัพท์ ให้ถูกต้องตามเหตุผล
๔.๑คำว่า “อาคันตุกะ” “ราชอาคันตุกะ” และ”พระราชอาคันตุกะ” ใช้ดังนี้ คือให้ดูเจ้าของบ้านเป็นสำคัญ เช่นแขกของพระมหากษัตริย์ ใช้คำว่า
”ราช”นำหน้า ถ้าไม่ใช่แขกของพระมหากษัตริย์ก็ไม่ต้องมี”ราช”นำหน้า
๔.๒ในการถวายสิ่งของแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ถ้าเป็นของเล็กยกได้ก็ใช้ “ทูลเกล้าฯ ถวาย”
ถ้าเป็นของใหญ่ยกไม่ได้ใช้ “น้อมเกล้า ฯ ถวาย”
1.คำราชาศัพท์หมวดร่างกาย
ผม = พระเกศา ไหปลาร้า = พระรากขวัญ
จุก = พระโมฬี นม = พระถัน, พระเต้า
หน้าผาก = พระนลาฎ ท้อง = พระอุทร
ฟัน = พระทนต์ เอว = บั้นพระองค์, พระกฤษฎี
ลิ้น = พระชิวหา หลัง = พระขนอง
นิ้วมือ = พระองคุลี บ่า = พระอังสะ
นิ้วชี้ = พระดรรชนี ขนระหว่างคิ้ว = พระอุณาโลม
เงา = พระฉายา จอนหู = พระกรรเจียก
ผิวหน้า = พระราศี จมูก = พระนาสิก
ปอด = พระปับผาสะ ปาก = พระโอษฐ์
คาง = พระหนุ อก = พระอุระ, พระทรวง
หู = พระกรรณ รักแร้ = พระกัจฉะ
ดวงหน้า = พระพักตร์ สะดือ = พระนาภี
อุจจาระ = พระบังคนหนัก น้ำตา = น้ำพระเนตร,
ต้นขา = พระอุรุ พระอัสสุชล
หัวเข่า = พระชานุ ต้นแขน = พระพาหุ
แข้ง = พระชงฆ์ ข้อมือ = ข้อพระหัตถ์
ผิวหนัง = พระฉวี ข้อเท้า = ข้อพระบาท
คิ้ว = พระขนง ปัสสาวะ = พระบังคนเบา
ลิ้นไก่ = มูลพระชิวหา ไรฟัน = ไรพระทนต์
นิ้วก้อย = พระกนิษฐา คอ = พระศอ
เนื้อ = พระมังสา ขน = พระโลมา
เถ้ากระดูก = พระอังคาร น้ำลาย = พระเขฬะ
ตะโพก = พระโสณี เหงื่อ = พระเสโท
2.คำราชาศัพท์หมวดราชตระกูล
ปู่, ตา = พระอัยกา ย่า, ยาย = พระอัยยิกา, พระอัยกี
ลุง (ฝ่ายพ่อ) = พระปิตุลา ป้า = พระปิตุจฉา
พ่อ = พระชนก พระบิดา แม่ = พระชนนี, พระมารด
พี่ชาย = พระเชษฐา พี่สาว = พระเชษฐภคินี
ลูกสะใภ้ = พระสุณิสา น้องชาย = พระอนุชา
พ่อผัว, พ่อตา = พระสัสสุระ ผัว = พระสวามี
พี่เขย, น้องเขย = พระเทวัน ลูกเขย = พระชามาดา
๓. คำราชาศัพท์หมวดเครื่องใช้
ม่าน, มุ้ง = พระวิสูตร พระสูตร ประตู = พระทวาร
ถาดน้ำชา = ถาดพระสุธารส คนโทน้ำ = พระสุวรรณภิงคาร
ของเสวย = เครื่อง ช้อน = ฉลองพระหัตถ์ช้อน
ส้อม = ฉลองพระหัตถ์ส้อม ปิ่น = พระจุฑามณี
เหล้า = น้ำจัณฑ์ เสื้อ = ฉลองพระองค์
รองท้า = ฉลองพระบาท ปืน = พระแสงปืน
ผ้าเช็ดตัว = ซับพระองค์ ผ้าเช็ดหน้า = ซับพระพักตร์
กระจกส่อง = พระฉาย ที่นอน = พระยี่ภู่
กางเกง = พระสนับเพลา พระที่ (ราชวงศ์)
ไม้เท้า = ธารพระกร เตียงนอน = พระแท่นบรรทม
น้ำกิน = พระสุธารส ตุ้มหู = พระกุณฑล
พานหมาก = พานพระศรี น้ำชา = พระสุธารสชา
ผ้าอาบน้ำ = พระภูษาชุบสรง ข้าว = พระกระยาเสวย
(พระมหากษัตริย์) เข็มขัด = รัดพระองค์, ผ้าชุบสรง, ผ้าสรง พระปั้นเหน่ง
4.คำราชาศัพท์หมวดอากัปกิริยา
ทาเครื่องหอม = ทรงพระสำอาง ทักทายปราศรัย = พระราชปฏิสันถาร
ถาม = พระราชปุจฉา ดู = ทอดพระเนตร
ให้ = พระราชทาน อยากได้ = ต้องพระราชประสงค์
ไปเที่ยว = เสด็จประพาส จดหมาย = พระราชหัตถเลขา
ไหว้ = ถวายบังคม แต่งตัว = ทรงเครื่อง
อาบน้ำ = สรงน้ำ มีครรภ์ = ทรงพระครรภ์
หัวเราะ = ทรงพระสรวล ตัดสิน = พระบรมราชวินิจฉัย
พระปนัดดา - เหลนชายหญิง ของเจ้านายตั้งแต่
พระองค์เจ้าขึ้นไป
พระราชปนัดดา - เหลนชายหญิง ของพระมหากษัตริย์
พระสามี, พระสวามี, พระภัสดา - สามี ของเจ้านาย
พระบรมราชสวามี - พระมหากษัตริย์ที่เป็นพระสวามีของ
พระอัครมเหสี หรือพระมเหสีรอง
พระอัครมเหสี, พระมเหสี - ภรรยาเอก ของพระมหากษัตริย์
สมเด็จพระบรมราชินีนาถ - ภรรยาเอก หรือ พระอัครมเหสี ของ
พระมหากษัตริย์ ซึ่งได้ทรงบริหารราชการ
แผ่นดินต่างพระองค์มาแล้ว
สมเด็จพระบรมราชินี - ภรรยาเอก หรือ พระอัครมเหสี ของ
พระมหากษัตริย์
สมเด็จพระราชินี - ภรรยาเอก หรือ พระอัครมเหสี ของ
พระมหากษัตริย์ที่ยังมิได้รับพระบรมราชาภิเษก
สมเด็จพระบรมราชเทวี - ภรรยารอง หรือ พระอัครมเหสีรอง (ที่เป็นเจ้านาย)
ของพระมหากษัตริย์
พระอัครราชเทวี, พระอัครชายาเธอ, - ภรรยารอง หรือ พระมเหสีรอง (ที่เป็นเจ้านาย)
พระราชชายา ของพระมหากษัตริย์
เจ้าคุณจอมมารดา - ภรรยา (ที่มิได้เป็นเจ้านาย) และมีพระเจ้าลูกเธอ
จึงทรงยกย่องให้มีศักดิ์สูงเป็นพิเศษ เรียกว่า
พระสนมเอกของพระมหากษัตริย์
เจ้าจอมมารดา - ภรรยา (ที่มิได้เป็นเจ้านาย) และมีพระเจ้าลูกเธอ
เรียกว่า พระสนมของพระมหากษัตริย์
เจ้าจอม - ภรรยา (ที่มิได้เป็นเจ้านาย) และไม่มีพระเจ้าลูกเธอ
จอมมารดา - พระสนม ที่มีพระโอรสธิดา ของกรมพระราชวัง-
บวรวิไชยชาญ
พระชายา - ภรรยาเอก (ที่เป็นเจ้าฟ้า, พระองค์เจ้า) ของเจ้านาย
ชายา - ภรรยาเอก (ที่เป็นหม่อมเจ้า) ของเจ้านาย
หม่อม - ภรรยา (ที่เป็นสามัญชน) ของเจ้านาย
หม่อมห้าม - ภรรยา (ที่เป็นหม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวง ตลอดจน
สามัญชน) ของเจ้านาย
พระชามาดา - ลูกเขย ของพระมหากษัตริย์ และเจ้านาย
พระสุณิสา - ลูกสะใภ้ ของพระมหากษัตริย์ และเจ้านาย
สะใภ้หลวง, สะใภ้หลวงพระราชทาน - พระชายาของพระราชโอรสของพระมหากษัตริย์
บางแห่งเรียกพระชายาพระราชทาน
พระสสุระ, พระสัสสุระ - พ่อผัว พ่อตา
พระสัสสุ - แม่ผัว แม่ยาย
พระบรมวงศานุวงศ์ - เป็นศัพท์สนธิ ประกอบด้วยคำ บรมวงศ์ กับ
อนุวงศ์ คำแรกหมายถึงพระราชวงศ์ชั้นสูง ตั้งแต่
พระราชโอรส พระราชธิดาขึ้นไป คำหลังหมายถึง
พระราชวงศ์ที่ทรงศักดิ์เป็นพระนัดดา พระปนัดดา
ของพระมหากษัตริย์ และมีพระยศเป็นพระองค์เจ้า
และหม่อมเจ้า
พระราชวงศ์ หรือเจ้านาย - เชื้อพระวงศ์ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป
ราชตระกูล - บรรดาบุคคลผู้อยู่ในราชสกุลทุกมหาสาขา
อันสืบสายมาแต่พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ใน
พระบรมราชจักรีวงศ์
ราชินิกูล - บรรดาบุคคลที่อยู่ข้างสมเด็จพระบรมราชินี
พระญาติ - ญาติของพระมหากษัตริย์และเจ้านาย
พระราชญาติ - ญาติทางสมเด็จพระบรมราชินี
พระบรมญาติ - เจ้าคุณราชินิกูลที่พระมหากษัตริย์ทรงยกย่อง
ว่าเป็นญาติ
เจ้าครอก - ผู้มีเชื้อสายเจ้าโดยกำเนิด
เจ้าขรัว, ขรัวตา, ขรัวยาย - สามัญชนที่เป็นตายายของพระองค์เจ้าลูกหลวง
พระปัยกา, พระไปยกา ปู่ทวด ตาทวด
พระปัยยิกา, พระไปยิกา ย่าทวด ยายทวด
พระอัยกา, พระไอยกา ปู่ ตา
พระอัยยิกา พระไอยิกา พระไอยกี ย่า ยาย
พระราชบิดา พ่อ
พระราชชนนี, พระราชมารดา แม่
พระปิตุลา ลุง อา (พี่ชาย น้องชายของพ่อ)
พระปิตุจฉา ป้า อา (พี่สาว น้องสาวของพ่อ)
พระมาตุลา ลุง น้า (พี่ชาย น้องชายของแม่)
พระมาตุลานี ป้าสะไภ้ น้าสะไภ้ (เมียของพี่ชาย น้องชายของแม่)
พระมาตุจฉา ป้า น้า (พี่สาว น้องสาวของแม่)
พระเชษฐา, พระเชษฐภาดา พี่ชาย
พระเชษฐภคินี พี่สาว
พระอนุชา น้องชาย
พระกนิษฐภคินี น้องสาว
พระภาดา, พระภราดร ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นชาย
พระภคินี ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นหญิง
พระราชโอรส ลูกชาย
พระราชธิดา ลูกสาว
พระราชนัดดา, หลานหลวง หลานชาย หลานสาว
พระภาคิไนย หลานชาย หลานสาวที่เป็นลูกของพี่สาว หรือน้องสาว
พระภาติยะ หลานชาย หลานสาวที่เป็นลูกพี่ชาย หรือน้องชาย
พระราชปนัดดา เหลนชายหญิง
พระภัสดา สามีของเจ้านาย
พระชามาดา &nbs
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น